4

การก่อตั้งมูลนิธิว่องตระกูลสงเคราะห์

เนื่องจากหัวหน้าชนเผ่าในถิ่นต่างๆ มีความประสงค์ที่จะรักษาความสามัคคี จึงได้ตั้ง สมาคมว่องตระกูลคนชรา และ มูลนิธิว่องตระกูลว่างวั่งปั้ง มาก่อน จึงทำให้เป็นฐานของการก่อตั้งมูลนิธิฯ ขึ้น

ต้นปี ค.ศ.1965 ว่องตระกูล 5 ท่านที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ได้ก่อตั้งสมาคมคนชราขึ้นที่กรุงเทพฯ โดย คุณจินเฉิง เป็นหัวหน้า และหลังจากที่คุณจินเฉิงได้เสียชีวิตไป คุณวิชัย สวาทยานนท์ จึงได้เข้ารับตำแหน่งแทน โดยเขาตั้งใจว่าจะพัฒนากิจการในสมาคม ซึ่งก็ได้รับความชื่นชมจากสมาชิกว่องตระกูลทุกคน

ว่องตระกูลที่อยู่ในประเทศจีนก็ได้ก่อตั้งสมาคมว่องตระกูลในแต่ละท้องถิ่น เพื่อจัดการ เรื่องการสมรส พิธีฌาปนกิจ และสวัสดิการต่างๆ ในว่องตระกูล

ปี ค.ศ. 1971  สมาคมคนชราว่องตระกูลได้จัดงานฉลองเทศกาลหยวนเซียวขึ้น จึงเริ่มมีความคิดที่จะรวมสมาคมคนชราและสมาคมว่องตระกูลเข้าด้วยกัน และต่อมาจึงก่อตั้งเป็นมูลนิธิว่องตระกูลสงเคราะห์ขึ้น โดยครั้งแรกได้จัดสัมมนาที่โรงงานน้ำตาลมิตรผล เพื่อปรึกษาการจัดตั้งองค์กรและการดำเนินงาน ซึ่งต่อมาได้จัดตั้งคณะกรรมการมูลนิธิว่องตระกุลสงเคราะห์เพื่อรับผิดชอบงานต่างๆ

 

 

เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น  ที่ตั้งสำนักงานชั่วคราวอยู่ที่  โรงงานสยามบราเดอร์    ตั้งโดย คุณวิชัย และในเวลานั้นก็ได้ขอจดทะเบียนจากรัฐบาลไทย และได้ซื้อที่ดินเพื่อสร้างสุสานโดยตั้งชื่อว่า สุสานทะเลบก (เผิงเหยามู่ย่วน)

วันที่  26 ธันวาคม ปี ค.ศ. 1972  มูลนิธิฯ ได้รับอนุญาตให้เป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมายจากรัฐบาลไทย ให้เป็น มูลนิธิว่องตระกูลสงเคราะห์  อย่างเป็นทางการ  เมื่อวันที่  21 กันยายน ปี ค.ศ. 1974 และได้จัดงานเลี้ยงฉลองที่หอประชุมใหญ่ของสุสานทะเลบก  (เผิงเหยามู่ย่วน)   และได้เลือกกรรมการบริหารรุ่นที่ 1 ขึ้น

เมื่อวันที่  3 ตุลาคม ในปีเดียวกัน กรรมการบริหารมีการประชุมเพื่อคัดเลือกกรรมการทีห้องประชุมชั้น 2 ของมูลนิธิฯ และได้เลือก คุณวิชัย เป็นหัวหน้า คุณวิเทศ คุณฮัก คุณจิดหยุก คุณวิบูลย์ เป็นรองหัวหน้า

ระยะเวลา  16  ปีผ่านไป ที่ตั้งมูลนิธิฯ แห่งเก่าไม่สมบูรณ์ สถานที่คับแคบ จึงคิดที่จะหาสถานที่แห่งใหม่ และเมื่อวันที่  20  เมษายน ค.ศ. 1991  ได้จัดประชุมกรรมการบริหารครั้งที่  3  รุ่นที่  9  ขึ้น โดยได้ตั้งคณะกรรมการบริหารเพื่อดำเนินการจัดซื้อสถานที่แห่งใหม่

5
 
 
building1

วันที่  11 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1992  ได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารครั้งที่  1  รุ่นที่  10  ขึ้นเพื่อมอบหมายให้ คุณวิชัย, คุณสุนทร, คุณเข็คเชี้ยง,คุณกิมต้ง ไปตรวจดูสถานที่แห่งใหม่ สุดท้ายได้ตกลงที่จะเลือกซอย  77  ถนนเพชรเกษมเป็นที่ตั้ง เนื้อที่ดิน  343  ตารางวา ตารางวาละ  35,000.-  บาท และได้ตกลงขายที่เก่าด้วยราคา  6,000,000.- บาท ภายใน  1  ปี

วันที่  12  มีนาคม ปี ค.ศ. 1993  คณะกรรมการตกลงจะซื้อที่ดินดังกล่าว โดยให้คุณวิชัยและคุณสุนทรจ่ายเงินคนละ  3,000,000.- บาท เพื่อเป็นค่ามัดจำซื้อที่ดิน โดยได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการจัดหาเงินซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างตึกที่ทำการมูลนิฯ และสร้างตึกหอพักให้เช่า ทำให้มีรายได้เข้ามูลนิธิฯ

วันที่  6 มกราคม ปี ค.ศ. 1994  ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ และในปี  1995  ได้เปิดประมูลก่อสร้างอาคารที่ทำการมูลนิธิฯ และอาคารชุด  6  ชั้น จนถึงเดือนพฤศจิกายน ปี  ค.ศ. 1996  การก่อสร้างอาคารก็ได้ดำเนินการจนสำเร็จ